Pages

7 ต.ค. 2554

ความสุข ... เริ่มต้นที่ใจเราเอง

เคยมีอาการแบบนี้ไหมเวลาที่ใจเป็นทุกข์ อมความทุกข์อะไรเอาไว้ ความสามารถในการทำงานของเราจะลดลง ความสามารถในการเข้าสังคมก็จะลดลงไปด้วย ทำให้งานแย่ ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างก็แย่ มักจะทำอะไรผิดพลาดไปหมด เนื่องจากกังวลอยู่แต่กับความทุกข์ในใจตลอดเวลา จนสมองไม่เหลือทรัพยากรเพียงพอสำหรับทำกิจกรรมในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อเราหมดความสามารถในการที่จะมอบความรักให้ใคร เราจะโหยหาความรัก ความเห็นใจ ความสุขจากภายนอก จากคนรอบข้าง จากวัตถุ เนื่องจากเราไม่สามารถสร้างความสุขขึ้นมาเองได้

จะเห็นได้ว่าการอมความทุกข์นั้น เป็นวงจรเสริมแรงในทางลบ ทุกเหตุการณ์ทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นมา ล้วนเสริมกัน เป็นปัจจัยให้กันและกัน หมุนวงจรให้ต่ำลง คนบางคนนั้น อมความทุกข์ไว้ได้นานเป็นปีๆ ไม่สามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ได้ จนสุขภาพย่ำแย่ บุคลิกหน้าตาก็หมดสง่าราศี

ผมเคยอ่านเจอประโยคหนึ่งซึ่งจำที่มาไม้ได้แล้ว แต่จำใจความได้ว่า "เราไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยความคิดระดับเดียวกันกับความคิดที่มีปัญหาอยู่"

ระดับความคิดที่ใช้แก้ปัญหานั้นจะต้องอยู่ในเลเวลที่สูงกว่าระดับความคิดที่เป็นปัญหาอยู่เสมอ

หากเพียงแต่มีสติเท่านั้น ตัดวงจรเสริมแรงทางลบ เปลี่ยนมาสร้างวงจรเสริมแรงทางบวก เริ่มจากสร้างความสุขให้เกิดขึ้นจากในใจ จนมากพอที่จะเผื่อแผ่ให้ผู้อื่น รักและเมตตาตนเอง จนมากพอที่เราจะสามารถมอบความรักและเมตตาให้ผู้อื่น เมื่อมุมมองที่เรามองโลกจะเปลี่ยนไปและเราจะพบกับความเปลี่ยนแปลงที่น่ามหัศจรรย์

สุดท้าย ผมขอดึงเอาใจความในหนังสือเดอะซีเคร็ต เรื่องกฏแห่งแรงดึงดูด ที่ผมอ่านแล้วจำได้แม่นว่า "สิ่งที่เหมือนกันจะดึงดูดเข้าหากัน" กับอีกหนึ่งในหนังสือเข็มทิศชีวิต 3 ของคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ที่ว่า "โลกจะจัดสรรสภาพแวดล้อมของชีวิตเราตรงตามสภาพจิตใจของเรา หากเราต้องการเปลี่ยนชีวิตของเราให้ดีขึ้น ให้เริ่มที่ใจเราก่อน" มาฝากให้ผู้ที่กำลังหมดกำลังใจที่กำลังหลงเข้ามาอ่านแล้วกันนะครับ

หากต้องการความสุข ... เริ่มที่ใจของเราเอง

ไม่มีความคิดเห็น: